Asakusa Culture Tourist Information Center




Asakusa
Asakusa
Asakusa

     ถ้าถามผมว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียว ผมคงนึกถึงโคมไฟสีแดงขนาดมหึมาที่ประตูของวัดเซ็นโซจิ หรือเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าวัดอาซากุสะ ประมาณว่าถ้าไม่ได้ไปถ่ายรูปกับโคมไฟตรงนี้แล้วเหมือนไปไม่ถึงโตเกียว งานสถาปัตยกรรมที่นำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้เป็นอาคาร Asakusa Culture Tourist Information Center ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมฝั่งตรงข้ามกับประตูทางเข้าวัดอาซากุสะนี้เลย การที่จะต้องออกแบบอาคารที่อยู่ในระยะกระชั้นชิดและประจันหน้ากับงานสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโตเกียวนั้นเป็นโจทย์ที่ท้าทายไม่น้อยเลยทีเดียว
Asakusa02.jpg

     อาคาร Asakusa Culture Tourist Information Center ที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว(2012)แห่งนี้ออกแบบโดย Kengo Kuma ซึ่งงานของเขาส่วนใหญ่นั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ดูโมเดิร์น เรียบง่าย เน้นการแสดงถึงเนื้อแท้ของวัสดุเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน และงานนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อดูจากภายนอกแล้วดูเหมือนเป็นอาคารที่เกิดขึ้นจากการนำอาคารย่อยๆ ที่มีหลังคาลาดชันมาวางซ้อนๆ กันสลับไปมา อาจจะเป็นเพราะเส้นสายของแนวชายคา การเลือกใช้สีโทนเข้ม โครงสร้างหลังคาและแผงกันแดดไม้ในแนวตั้งของแต่ละชั้น ทำให้งานนี้ของเขามีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อยทีเดียว
Asakusa03.jpg
Asakusa04.jpg
ภาพแสดง : รายละเอียดผนังของอาคารและแผงกันแดดไม้

     การใช้งานของอาคารสูง 8 ชั้นบนพื้นที่ดินผืนเล็กๆ แค่ 326 ตารางเมตรแห่งนี้แบ่งประกอบไปด้วยหลายๆ ส่วนที่แตกต่างกัน ด้วยความที่ที่ดินนั้นจำกัดเป็นอย่างมาก สถาปนิกจึงต้องนำการใช้งานต่างๆ มาจัดวางซ้อนกันในแนวตั้งแทน ชั้นแรกและชั้นที่สองนั้นเป็นโถงล็อบบี้และส่วนบริการให้ข้อมูลเกี่ยวกับย่านอาซากุซะแก่นักท่องเที่ยว มีการจัดแสดงโมเดลจำลองของพื้นที่รอบย่านอาซากุสะ งานศิลปะและประติมากรรมพื้นถิ่น โดยที่พื้นที่ตรงกลางของชั้นแรกนั้นจะเปิดโล่งเป็น double space ขึ้นไปสู่ชั้นสอง ภายในนั้นสถาปนิกได้โชว์โครงสร้างไม้ของหลังคาลาดชัน ตัดกับสีเทาเข้มเกือบดำของฝ้าเพดาน พื้นที่ว่างระหว่างหลังคาลาดชันกับพื้นนั้นของแต่ละชั้นนั้นถูกใช้สำหรับระบบปรับอากาศ
Asakusa05.jpgAsakusa07.jpg
Asakusa06.jpg
Asakusa08.jpg
ภาพแสดง : ภายในล็อบบี้ชั้นหนึ่งซึ่งเป็นส่วนบริการให้ข้อมูลเกี่ยวกับย่านอาซากุซะแก่นักท่องเที่ยว

     จากล็อบบี้ชั้นหนึ่งผมขึ้นลิฟท์ไปสู่ชั้น 8 ซึ่งเป็นลานชมวิวและส่วนคาเฟ่ชั้นบนสุดของอาคารนี้ก่อน ลานชมวิวเป็นพื้นที่ภายนอกที่มีหลังคาคลุม จากจุดนี้จะสามารถมองเห็นวิวของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ในย่านอาซากุซะในมุมมองที่นักท่องเที่ยวไม่เคยเห็นมาก่อนที่จะมีการสร้างอาคารนี้ไม่ว่าจะเป็นวัดอาซากุซะ อาคาร Asahi Beer Hall  ที่ออกแบบโดย Philippe Stark เลยไปถึงหอคอยที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดใช้ไปไม่นานมานี้อย่าง Tokyo Sky Tree
Asakusa09.jpgAsakusa10.jpg
Asakusa11.jpg

     จากชั้นชมวิวจะมีบันไดภายนอกเชื่อมลงไปสู่ชั้น 7 ซึ่งเป็นโถงนิทรรศการ ขณะที่ผมไปเยี่ยมชมนั้นเขาได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของย่านอาซากุซะนี้ และอาคารสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเก่าหรือใหม่
Asakusa12.jpg

      ชั้น 6 ถัดลงมานั้นน่าสนใจทีเดียว อาศัยที่ว่าหลังคาลาดชันของชั้น 5 ด้านล่างนั้น ทำให้พื้นของชั้น 6 สามารถทำเป็นขั้นบันไดไล่ไปตามความชันของหลังคาชั้น 5 การใช้งานของชั้นนี้จึงสามารถเป็นได้ทั้งห้องบรรยายและห้องฉายภาพยนตร์ไปในตัว นอกจากนั้นผนังกระจกที่อยู่ด้านเดียวกับจอภาพยนตร์นั้นเปิดให้เห็นวิวของวัดอาซากุซะได้เป็นอย่างดี ส่วนชั้น 3 ถึง 5 นั้นเป็นส่วนสำนักงาน ห้องบรรยายขนาดเล็กและห้องประชุม
Asakusa13.jpg

     ถึงแม้ว่าอาคาร Asakusa Culture Tourist Information Center จะตั้งเผชิญหน้าอยู่กับอาคารที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโตเกียว ด้วยการออกแบบที่แตกรูปทรงของอาคารออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ ย่อยๆ แทนที่จะเป็นอาคารสูงทื่อๆ ที่เนื่องมาจากการตอบสนองพื้นที่ใช้งานที่มากพอสมควรแต่เพียงอย่างเดียว และการยืมเอาองค์ประกอบบางอย่างของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของญี่ปุ่นมาลดทอนรายละเอียดลงให้น้อยที่สุด แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี วัสดุ และรูปทรงหลังคา ผมว่าอาคารนี้สามารถอยู่ร่วมกับวัดอาซากุซะได้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยแต่ในขณะเดียวกันก็มีความโดดเด่นในตัวของมันเอง

รื่อง/ภาพ : คุณต่อพงษ์ เอื้อประยูรวงษ์

No comments:

Post a Comment